เสือมังกร vs บาคาร่า อะไรเล่นง่ายกว่ากัน
เสือมังกร และบาคาร่า เมื่อพูดถึงคาสิโนออนไลน์ที่นิยมกันคงจะหนีไม่พ้น 2 เกมนี้ไปแน่นอน เพราะมักเป็นสองเกมที่ผู้เล่นหลายคนให้ความสนใจเนื่องจากทั้งคู่เป็นเกมที่เล่นง่ายและรวดเร็ว แต่ต้องย้ำก่อนว่าการเล่นเกมคาสิโนออนไลน์ควรจะเลือกเล่นกับเว็บพนันถูกกฎหมายเป็นหลัก ถ้าไม่อยากโดนโกง!!
มาต่อกันที่ แล้วเกมไหนเล่นง่ายกว่ากัน เพื่อที่จะหาความเหมาะสมกับตัวเองได้มากที่สุดบทความนี้จะพูดถึงทั้ง 2 เกมแบบทุกซอกทุกมุมให้รู้ลึกไปถึงบรรพบุรุษกันเลย
เข้าใจกติกาเบื้องต้นของ เสือมังกร
เสือมังกร เป็นเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมในทศวรรษที่ผ่านมาจากคาสิโนออนไลน์ เป็นเกมที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายกับบาคาร่า แต่ความแตกต่างคือเกมนี้จะใช้ไพ่เพียงใบเดียวในการตัดสินผลลัพธ์ ผลของเกมจะเป็นการเปิดไพ่ระหว่างฝ่าย “เสือ” (Tiger) และ “มังกร” (Dragon) และผู้เล่นจะต้องทายว่าฝ่ายไหนจะมีแต้มสูงกว่า หรือจะเสมอ
กติกาของเกมเสือมังกร
- เกมจะใช้ไพ่หนึ่งสำรับในการเล่น หรือบางครั้งอาจจะใช้สำรับไพ่มาตรฐาน 8 สำรับ
- ผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพันได้ 3 ตัวเลือกหลัก ได้แก่ “เสือ” (Tiger), “มังกร” (Dragon), หรือ “เสมอ” (Tie)
- ไพ่ที่แจกให้กับทั้งสองฝ่ายจะเป็นไพ่หนึ่งใบเท่านั้น และไม่มีการจั่วไพ่เพิ่มเติม
- ผู้เล่นจะต้องทายว่าฝ่ายไหนจะได้แต้มสูงกว่า ซึ่งแต้มของไพ่จะถูกนับตามหน้าไพ่ เช่น A=1, 2-10 ตามเลขหน้า, J=11, Q=12, K=13
- หากฝ่ายที่ผู้เล่นทายมีแต้มสูงสุด ผู้เล่นจะชนะ
การเล่นเสือมังกรนั้นง่ายและไม่ซับซ้อน เพราะมีกติกาที่ตรงไปตรงมา และใช้ไพ่เพียงใบเดียวในการตัดสินผล เกมนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมคาสิโนที่ไม่ยุ่งยาก
เข้าใจกติกาเบื้องต้นของบาคาร่า
บาคาร่า เป็นเกมคาสิโนคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมายาวนาน และมีการเล่นในคาสิโนทั่วโลก กติกาของบาคาร่ามีความคล้ายคลึงกับเกมไพ่ป๊อกเด้งของไทย แต่มีความซับซ้อนมากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีกฎที่เกี่ยวกับการจั่วไพ่เพิ่มเติมในบางกรณี
กติกาของเกมบาคาร่า
- ในบาคาร่า จะมีสองฝ่ายหลักที่ผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพัน ได้แก่ “ผู้เล่น” (Player) และ “เจ้ามือ” (Banker) นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก “เสมอ” (Tie) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เดิมพันว่าผลของทั้งสองฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน
- แต้มของไพ่จะนับตามหน้าไพ่เหมือนในเสือมังกร แต่ในบาคาร่า ตัวเลขไพ่ 10, J, Q, K จะนับเป็น 0 แต้ม
- ทั้ง “ผู้เล่น” และ “เจ้ามือ” จะได้รับไพ่สองใบ เริ่มต้นในแต่ละรอบการเล่น
- หากฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีแต้มรวมมากกว่าฝั่งอื่นก็จะชนะ หากแต้มรวมมีค่าเท่ากัน ก็จะเป็นผลเสมอ
- การจั่วไพ่ใบที่สามจะเกิดขึ้นในบางกรณี ขึ้นอยู่กับกฎการจั่วของทั้งสองฝ่าย โดยผู้เล่นหรือเจ้ามืออาจจั่วไพ่ใบที่สามในกรณีที่มีแต้มต่ำ
เกมบาคาร่าเป็นเกมที่มีกฎการเล่นที่ละเอียดกว่ามาก และยังมีการจั่วไพ่ในบางกรณี ซึ่งทำให้เกมนี้มีความซับซ้อนมากกว่าเสือมังกรอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นเกมที่เข้าใจง่ายเมื่อได้ศึกษากติกาพื้นฐานแล้ว
เปรียบเทียบความง่ายในการเล่นระหว่างเสือมังกรและบาคาร่า
ความง่ายของการเข้าใจกติกา
- เสือมังกร: เกมนี้มีกติกาที่ง่ายมาก ผู้เล่นเพียงแค่เลือกเดิมพันว่า “เสือ” หรือ “มังกร” จะมีแต้มมากกว่า หรือทายว่าเกมจะออกเสมอ เมื่อไพ่แจกเสร็จผลลัพธ์ก็จะออกมาเลย ไม่มีการจั่วไพ่หรือการคิดคำนวณซับซ้อนใดๆ
- บาคาร่า: แม้ว่ากติกาของบาคาร่าจะไม่ซับซ้อนมาก แต่มีการจั่วไพ่เพิ่มเติม ซึ่งผู้เล่นบางคนอาจจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องการจั่วไพ่ใบที่สามที่มีเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ที่ต้องจำ
สรุป: หากพิจารณาแค่ในแง่ของการเข้าใจกติกา เสือมังกร จะเล่นง่ายกว่า เพราะไม่มีความซับซ้อนในการคำนวณผลลัพธ์ หรือการจั่วไพ่เพิ่มเติม
ความเร็วของการเล่น
- เสือมังกร: เกมนี้มีความเร็วในการเล่นที่สูงมาก เพราะแต่ละรอบจะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น การตัดสินผลจากไพ่ใบเดียวทำให้เกมนี้เร็วและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นหลายรอบในเวลาอันสั้น
- บาคาร่า: เกมบาคาร่ามักใช้เวลาในการเล่นที่นานกว่า เพราะต้องมีการแจกไพ่สองใบให้กับทั้ง “ผู้เล่น” และ “เจ้ามือ” และอาจมีการจั่วไพ่เพิ่มเติมตามเงื่อนไขของกฎ ทำให้ใช้เวลานานกว่าหน่อย
สรุป: หากคุณต้องการเกมที่เล่นเร็วๆ และไม่ต้องรอนาน เสือมังกร เหมาะสมกว่า เพราะมันจบเกมเร็วมาก
ความหลากหลายในการวางเดิมพัน
- เสือมังกร: เกมนี้มีตัวเลือกในการเดิมพันที่จำกัด ได้แก่ “เสือ”, “มังกร”, หรือ “เสมอ” ซึ่งทำให้การเลือกเดิมพันค่อนข้างง่ายและตรงไปตรงมา
- บาคาร่า: นอกจากตัวเลือกหลัก “ผู้เล่น” และ “เจ้ามือ” แล้ว ยังมีตัวเลือกเสมอที่อาจทำให้การเลือกเดิมพันมีความหลากหลายมากขึ้น แต่ก็ทำให้ผู้เล่นต้องพิจารณาว่าจะเลือกเดิมพันในฝั่งไหน
สรุป: ในแง่ของความหลากหลายในการเลือกเดิมพัน บาคาร่า อาจให้ตัวเลือกที่มากกว่า แต่ในแง่ของความง่าย เสือมังกรจะตรงไปตรงมากว่า
โอกาสในการชนะและอัตราการจ่าย
- เสือมังกร: การเดิมพันใน “เสือ” หรือ “มังกร” จะมีอัตราการจ่าย 1:1 แต่หากทาย “เสมอ” จะมีอัตราการจ่ายที่สูงกว่า เช่น 8:1 หรือ 9:1 ขึ้นอยู่กับกฎของคาสิโน
บาคาร่า: การเดิมพันใน “ผู้เล่น” และ “เจ้ามือ” จะมีอัตราการจ่าย 1:1 เช่นเดียวกัน แต่การเดิมพันใน “เสมอ” จะมีอัตราการจ่ายสูงกว่า (มักจะจ่าย 8:1 หรือ 9:1) ซึ่งอัตราการจ่ายเสมอนั้นค่อนข้างสูง แต่โอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย
ความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge)
- เสือมังกร: ความได้เปรียบของเจ้ามือในเกมเสือมังกรค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะในการเดิมพันที่ไม่เป็น “เสมอ”
- บาคาร่า: ความได้เปรียบของเจ้ามือในบาคาร่าไม่สูงนัก โดยเฉพาะเมื่อเดิมพัน “เจ้ามือ” เพราะคาสิโนจะหักค่าคอมมิชชั่น 5% จากการชนะเดิมพันของเจ้ามือ
สรุป เสือมังกร vs บาคาร่า อะไรเล่นง่ายกว่ากัน?
เสือมังกร เป็นเกมที่มีความง่ายและตรงไปตรงมาในการเล่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเกมที่เร็ว ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องใช้เวลาคิดมากในการตัดสินใจ การเลือกเดิมพันมีแค่ 3 ตัวเลือกหลัก ทำให้เหมาะสมกับผู้เล่นที่ไม่อยากยุ่งยาก
บาคาร่า แม้จะมีความซับซ้อนมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นเกมที่เล่นง่ายและเป็นที่นิยม มีความหลากหลายในการเลือกเดิมพัน โดยเฉพาะในส่วนของการจั่วไพ่ ที่บางครั้งอาจทำให้เกมนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการการเล่นที่มีรายละเอียดมากกว่า
ถ้าคุณเป็นผู้เล่นมือใหม่ หรือชอบเกมที่เร็วและง่าย เสือมังกร อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณชอบเกมที่มีกติกามากขึ้นและต้องการการเล่นที่มีความหลากหลาย บาคาร่า ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน