ปวดท้องเมนส์ รุนแรง ควรท่านอนไหน ปวดท้องเมนส์ กินอะไรได้บ้าง

ปวดท้องประจำเดือน

ปวดท้องเมนส์

ปวดท้องเมนส์ คือ อาการปวดบริเวณท้องน้อยหรือช่วงล่างของหน้าท้องที่เกิดขึ้นก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ โดยความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนอาจปวดเล็กน้อย บางคนอาจปวดจนต้องหยุดกิจกรรมประจำวัน

ตอนที่ 1 : ปวดท้องเมนส์เกิดจากอะไร

ตอนที่ 2 : ปวดท้องเมนส์ มีกี่ประเภท

ตอนที่ 3 : วิธีรักษาอาการปวด

ตอนที่ 4 : อาหารที่ไม่ควรกินตอนเป็นประจำเดือน

ตอนที่ 5 : ปวดท้องประจำเดือนนอนท่าไหน

ตอนที่ 6 :  สรุป

ปวดท้องเมนส์ เกิดจากอะไร

อาการ ปวดท้องเมนส์ หรือ ปวดท้องประจำเดือน เกิดจากการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายผู้หญิงที่เกิดขึ้นเมื่อมีประจำเดือน โดยมีสาเหตุหลักๆ

สาเหตุของการ ปวดท้องเมนส์

1.) การหลั่งสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) สูงเกินไป 

เป็นสารคล้ายฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้น เพื่อช่วยให้มดลูกบีบตัวขับเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา หากมีมากเกินไป จะทำให้มดลูกบีบตัวแรงและเร็วกว่าปกติ จนเกิดอาการปวด

2.) การหดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก 

กล้ามเนื้อมดลูกจะหดตัวเพื่อขับเลือดประจำเดือนออกมา การหดตัวแรงหรือถี่เกินไปจะทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่พอ จนเกิดความเจ็บปวด คล้ายอาการปวดเกร็ง 

3.) ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล 

การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนช่วงก่อนมีประจำเดือน อาจทำให้เกิดอาการปวด หน่วง หรือรู้สึกไม่สบายตัวร่วมด้วย 

4.) โรคหรือภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ 

ในบางรายอาจไม่ได้เกิดจากร่างกายปกติ แต่เกิดจากโรค เช่น: 

  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) 
  • ซีสต์รังไข่ หรือ เนื้องอกมดลูก 
  • การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน 

5.) ความเครียดและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ความเครียด 

พักผ่อนไม่เพียงพอ ออกกำลังกายน้อย หรือรับประทานอาหารไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้ฮอร์โมนแปรปรวน และกระตุ้นอาการปวดให้รุนแรงขึ้นได้ เล่น หวยไว ช่วยลดอาการตึงเครียดได้

ปวดท้องเมนส์ มีกี่ประเภท

1.) ปวดท้องแบบปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea) : เป็นอาการปวดที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยไม่มีโรคหรือความผิดปกติทางร่างกายแฝงอยู่ 

มักเริ่มในช่วงวัยรุ่น (หลังมีประจำเดือนไม่นาน) 

✅ ปวดท้องบริเวณท้องน้อยช่วงวันแรกๆ ของการมีประจำเดือน 

✅ ลักษณะการปวด: ปวดบิด ปวดเกร็ง หน่วงๆ อาจร้าวไปหลังหรือต้นขา 

✅ อาการอาจลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หรือหลังคลอดบุตร 

✅ สาเหตุหลักคือการหลั่ง พรอสตาแกลนดิน มากกว่าปกติ ทำให้มดลูกบีบตัวแรงขึ้น

2.) ปวดท้องแบบทุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea) : เป็นอาการปวดที่ เกิดจากโรคหรือภาวะผิดปกติของอวัยวะภายในช่องท้อง/มดลูก

⚠️ พบในผู้หญิงวัยทำงานหรืออายุมากกว่าช่วงวัยรุ่น 

⚠️ ปวดมากผิดปกติ ปวดก่อนมีประจำเดือนหลายวัน และอาจปวดตลอดรอบเดือน

⚠️ ลักษณะการปวด: ปวดลึก หน่วงมาก และอาจไม่ทุเลาด้วยยาแก้ปวดทั่วไป 

⚠️ อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนมากผิดปกติ ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือมีบุตรยาก

*สาเหตุที่พบบ่อย: เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) / เนื้องอกมดลูก (Fibroids) / ซีสต์รังไข่ / การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease)

วิธีรักษาอาการปวด

วิธีรักษา ปวดท้องเมนส์

การรักษาอาการปวดท้องประจำเดือนขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและสาเหตุที่แท้จริง แต่หากอาการไม่รุนแรงหรือไม่เกี่ยวกับโรคที่ซ่อนอยู่ สามารถบรรเทาได้หลายวิธี ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์

ปวดท้องเมนส์ ไม่มาก

  1. ประคบร้อนที่ท้องน้อย ใช้ถุงน้ำร้อน หรือแผ่นแปะร้อนวางบนท้องน้อย ความร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดการเกร็งตัวของมดลูก 
  2. ออกกำลังกายเบาๆ เดินเล่น โยคะ หรือยืดกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดความตึงเครียด และหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (ลดความเจ็บปวดตามธรรมชาติ) 
  3. ดื่มน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพร ชาขิง ชาคาโมมายล์ หรือชาอบเชย ช่วยลดอาการเกร็ง และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบอ่อนๆ  
  4. ปรับอาหารให้สมดุล หลีกเลี่ยงของมัน ของหวาน คาเฟอีน และเกลือสูง เพิ่มผักผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีแมกนีเซียม เช่น กล้วย, อะโวคาโด, ถั่วต่าง ๆ 
  5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมน

ปวดท้องเมนส์ มาก

  1. ยาบรรเทาอาการปวด (NSAIDs) เช่น พาราเซตามอล, ไอบูโพรเฟน, มีเฟนามิก แอซิด → ลดอาการปวดและการอักเสบได้ดี 
  2. ยาคุมกำเนิด (สำหรับบางคน) : ช่วยควบคุมรอบเดือน ลดการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูก ลดอาการปวด ปวดตรงไหนให้ หวยไว แก้
  3. พบแพทย์เฉพาะทาง หากอาการปวดท้องเมนส์รุนแรงต่อเนื่อง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ → อาจต้องตรวจอัลตราซาวด์ หรือวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ซีสต์ ฯลฯ

อาหารที่ไม่ควรกินตอนเป็นประจำเดือน

ปวดท้องเมนส์

ในช่วงมีประจำเดือน ฮอร์โมนของร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้บางคนมีอาการปวดท้อง ท้องอืด อารมณ์แปรปรวน หรือเหนื่อยง่าย ดังนั้น การเลือกอาหารให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะอาหารบางอย่างที่ควร หลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้อาการหนักขึ้น

  • อาหารมันจัด / ทอด / ของชุบแป้ง
  • อาหารเค็มจัด
  • น้ำตาลสูง / ขนมหวานจัด
  • คาเฟอีน (กาแฟ ชาเขียว น้ำอัดลม)
  • อาหารดิบ / อาหารสุกๆ ดิบๆ
  • นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด

อาหารที่ควรกิน

  • ปลาน้ำมันดี เช่น แซลมอน ปลาทู 
  • ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า
  • ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว และกล้วย 
  • น้ำอุ่น / ชาขิง / ชาคาโมมายล์
  • ดาร์กช็อกโกแลต (นิดหน่อย)

ปวดท้องประจำเดือนนอนท่าไหน

ท่านอนที่ช่วยบรรเทาอาการ ปวดท้องเมนส์

1.) นอนตะแคงขดตัว  (ท่าทารกในครรภ์) * สำหรับปวดมาก 

  • งอเข่าเล็กน้อย กอดเขาไว้เบาๆ 
  • เป็นท่าที่ช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง 
  • ลดแรงกดจากมดลูก ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น 
  • เป็นท่าที่หลายคนบอกว่า “สบายสุดเวลาปวดเมนส์” 

2.) นอนหงาย วางหมอนใต้เข่า 

  • ช่วยให้กระดูกสันหลังตรง ลดแรงกดบริเวณท้องน้อย 
  • การวางหมอนใต้เข่าช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและสะโพก 
  • หากปวดหลังร่วมด้วย ท่านี้ถือว่าเหมาะมาก

3.) นอนหงาย ชันเข่าเล็กน้อย พร้อมประคบร้อน 

  • ใช้หมอนรองขา หรือชันเข่าด้วยหมอนข้าง 
  • ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อนบริเวณท้องน้อย 
  • ช่วยลดการหดเกร็งของมดลูก และลดอาการเจ็บปวด

4.) ท่า Child’s Pose (โยคะ) ก่อนนอน

  • เป็นท่าโยคะที่ง่ายมาก (นั่งคุกเข่า แล้วโน้มตัวลงให้หน้าผากติดพื้น แขนเหยียดไปด้านหน้า)
  • ผ่อนคลายหลังและสะโพก ช่วยคลายเกร็งท้อง
  • ทำประมาณ 1–2 นาที ก่อนล้มตัวลงนอน

สรุป

สำหรับใครที่มีอาการปวดรุนแรงจนใช้ชีวิตลำบาก หรือมีอาการผิดปกติร่วม เช่น เลือดออกมากผิดปกติ ปวดเกิน 3 วัน หรืออ่อนเพลียมาก ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคทางนรีเวชเพิ่มเติม